th.wikipedia.org

ค็อกเทล (วงดนตรี) - วิกิพีเดีย

  • ️Mon Oct 12 2020

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สำหรับเครื่องดื่ม ดูที่ ค็อกเทล

ค็อกเทล (COCKTAIL)

สมาชิกวงค็อกเทลใน พ.ศ. 2562

สมาชิกวงค็อกเทลใน พ.ศ. 2562

ข้อมูลพื้นฐาน
ฉายาCOCKTAIL
ที่เกิดประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
แนวเพลงออลเทอร์นาทิฟร็อก, ร็อก, ออร์เคสตรา, อินดีร็อก, ป็อป, เฮฟวีเมทัล (ช่วงแรก)
ช่วงปีพ.ศ. 2545–2568
ค่ายเพลงศิลปินอิสระ (พ.ศ. 2545–2553)
จีนี่ เรคคอร์ด (พ.ศ. 2553–2564)
ยีนแล็บ (พ.ศ. 2564–2568)
สมาชิกปัณฑพล ประสารราชกิจ
ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย
เกริกเกียรติ สว่างวงศ์
ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์
วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์
ชรัณ ตัณฑนันทน์
อดีตสมาชิกดู อดีตสมาชิก
เว็บไซต์facebook.com/cheerscocktail

ค็อกเทล (อังกฤษ: COCKTAIL) เป็นวงดนตรีสัญชาติไทย จากกรุงเทพมหานคร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เป็นศิลปินแนวดนตรีคลาสสิก ป็อปร็อก โดยมีต้นกำเนิดจากการรวมวงดนตรีหลาย ๆ วงในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในระดับมัธยมปลายมาออกจำหน่ายอัลบั้ม โดยมีชื่อว่า "COCKTAIL" จึงใช้ชื่อนี้ในการแสดงดนตรีเรื่อยมา โดยค็อกเทลมีผลงานอัลบั้มเพลงวางจำหน่ายทั้งสิ้น 9 อัลบั้ม 3 อีพี รวมมากกว่า 100 บทเพลง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 – 2567 จนกระทั่งยุบวงในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ช่วงแรกของวงและอัลบั้มแรก ค็อกเทล (พ.ศ. 2545–2546)

[แก้]

ค็อกเทล เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2545 ขณะที่ ปัณฑพล ประสารราชกิจ ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 6 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา[1] โดยปัณฑพล ได้เริ่มแต่งเพลงแรก คือ "ยิ้มให้ฉันหน่อย" จากนั้นจึงร่วมมือกันในการเริ่มทำอัลบั้มกับ วิศรุต เตชะวรงค์ (บู๊ Sky Kick Ranger) ปัณฑพล ยืมเงินของบิดาและมารดา 85,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการทำอัลบั้ม และเริ่มเชิญชวนเพื่อนในโรงเรียนคนอื่น ๆ มาร่วมทำอัลบั้มกับเขา หลังจากนั้นปัณฑพลได้แต่งเพลง "ซ้ำซ้อน" ขึ้นมาเพิ่ม ขณะที่ วิศรุต ได้แต่งเพลง "หลบหน้า" "อยาก" และ "รักไม่ลงตัว" ขึ้นมาเพิ่ม เริ่มบันทึกเสียงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 โดยแบ่งเป็น 2 วง ได้แก่ วงฟอร์เต ซึ่งได้ชื่อมาจากคำว่า เสียงดัง ในภาษาอิตาลี ซึ่งมีสมาชิกคือ ปัณฑพล รวมกับสมาชิกวงดนตรีของวิศรุตที่มีอยู่แล้ว โดยมีสัดส่วนการออกเพลง 6 เพลง ขณะที่อีก 4 เพลง เป็นของวงฟรีฟา ซึ่งได้ชื่อมาจากการผสมกันของชื่อวงฟรายเดย์ และโซฟาที่สมาชิกของวงชื่นชอบ แรกเริ่มคำว่า ค็อกเทล นั้นไม่ใช่ชื่อวง แต่เป็นชื่ออัลบั้มที่เสนอขึ้นโดยวิศรุต เนื่องจากเป็นชื่อที่มีความหมายของการผสมกันของเครื่องดื่ม เปรียบเหมือนกับงานดนตรีของวงที่เป็นการรวมตัวของนักเรียน และด้วยอีกเหตุหนึ่ง คือ ข้อสอบการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) ที่โรงเรียนออกในช่วงนั้น ออกเกี่ยวกับเรื่องค็อกเทลด้วย[2]

อัลบั้มของพวกเขาได้ออกจำหน่ายสำเร็จในงานกีฬาสีของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 ต่อมาได้มีการวางจำหน่ายในร้านดีเจสยาม และ น้องท่าพระจันทร์ เป็นอัลบั้มที่เริ่มทำให้วงเป็นที่รู้จักในหมู่นักเรียนมัธยมปลาย และสร้างกลุ่มแฟนที่สนใจผลงานขึ้นมาได้บ้างในเวลานั้น อัลบั้มนี้มีเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง "ซ้ำซ้อน" "หลบหน้า" และ "เศษซากความฝัน" ลักษณะของอัลบั้มใกล้เคียงความเป็นอัลบั้มรวบรวมมากกว่างานของค็อกเทลวงเดียว กล่าวคือเป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีมัธยมปลายภายในโรงเรียนเตรียมอุดมหลาย ๆ วง โดยเพลง "หลบหน้า" และ "Nobody" เป็นเสียงร้องของวิศรุต

อัลบั้ม 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ (พ.ศ. 2546–2549)

[แก้]

หลังจากนั้นค็อกเทลก็ได้ออกอีพี อินไซด์ (Inside) ในปี พ.ศ. 2546 เพื่อรองรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากอัลบั้มแรก สมาชิกหลายคนในช่วงอัลบั้มแรกได้แยกย้ายกันไปศึกษาต่อกันในระดับอุดมศึกษา แต่สมาชิกที่ยังเหลืออยู่ 4 คน ได้แก่ โอม - ปัณฑพล ประสารราชกิจ (ร้องนำ), บู๊ - วิศรุต เตชะวรงค์ (กลอง), หลง - วิทวัศ หลงชมบุญ (เบส) และ ธิป - ธิปรัชต์ โชติบุตร (กีตาร์) ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเป็นวง โดยตั้งใจจะใช้ชื่อว่า ค็อกเทล ต่อไป อย่างไรก็ตามแนวเพลงในอัลบั้มนี้ก็ยังไม่มีมีการกำหนดตายตัวแต่อย่างใด พวกเขาเริ่มต้นทำงานเพลงอัลบั้มที่ 2 ต่อไป โดยเริ่มแต่งเพลงในช่วงปลายปี พ.ศ. 2545 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2547 และเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2547 ช่วงนั้น ธิป มือกีตาร์ ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงต้องหามือกีตาร์คนใหม่ ซึ่งได้ เอกซ์ ปาริวัฒน์ สุวรรณชัย เข้ามาแทน[3] ต่อมาค็อกเทลได้ออกจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ในปี พ.ศ. 2547 เป็นอัลบั้มที่แนวทางของวงเปลี่ยนแปลงมาเป็นร็อกอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแต่ไม่มีการโปรโมตวงดนตรีเท่าที่ควร ทำให้เกิดลักษณะของการที่เพลงเป็นที่รู้จักมากกว่าวง

อัลบั้ม อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (พ.ศ. 2549–2553)

[แก้]

หลังจากอัลบั้มชุด 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ค็อกเทลได้มีสมาชิกใหม่อีก 2 คน คือ อายุ จารุบูรณะ อดีตมือกลองจาก Saliva Bastard และ เชา - ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย พร้อมกับทำผลงานอีพี Final Light ในปี พ.ศ. 2550 และสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ในชื่อ อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (In the Memory of Summer Romance) โดยได้ใช้เวลาถึง 3 ปี อัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 มีแนวเพลงที่แตกต่างจากร็อกในอัลบั้มของค็อกเทลชุดก่อน มีเพลง "พันธนาการ" ที่เป็นดนตรีสังเคราะห์ที่ผสมผสานกับดนตรีร็อก นอกจากนี้อัลบั้มนี้ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ด ประจำปี 2551 สาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากบทเพลง "ดาราดับแสง" เวอร์ชันบรรเลงอีกด้วย ต่อมาค็อกเทลจึงได้เซ็นสัญญากับสังกัดจีนี่เรคคอร์ดส[4]

อัลบัม เท็นเทาซันด์เทียส์ (พ.ศ. 2553–2555)

[แก้]

ในปี พ.ศ. 2553 ค็อกเทลได้ออกอีพีในชื่อ วัย ในอัลบั้มประกอบด้วยเพลง "วัย" ในเวอร์ชันต่าง ๆ ซึ่งอัลบั้มนี้ผลิตจำกัด 1,000 แผ่นเท่านั้น วางจำหน่ายวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ทุกแผ่นหักเป็นค่าทำบุญหนังสือเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธ์ศรี จังหวัดสิงห์บุรี[5]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ค็อกเทลได้ออกสตูดิโออัลบั้มที่มีชื่อว่า เท็นเทาซันด์เทียส์ ชื่อของอัลบั้มมีที่มาจากชื่อเพลง "ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ" และงานในอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่าค็อกเทลจะมีสมาชิกเพียง 3 คน แต่ในอัลบั้มมีนักดนตรีเข้าร่วมบันทึกเสียงด้วยถึงกว่า 40 ชีวิต เพื่อสร้างสีสันผสมผสานแนวดนตรีให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทำการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีสดทุกชิ้น และเพลง "วัย" ก็ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย

อัลบั้ม เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี (พ.ศ. 2555–2558)

[แก้]

ในอัลบั้มนี้ เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี เป็นการกลับมาของมือเบส ปาร์ค - เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ ส่วนอายุ จารุบูรณะ ได้ขอลาออกไปทำตามคำสัญญากับเพื่อนมัธยมที่จะสร้างวงดนตรีด้วยกัน จึงได้ ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ เข้ามาทำหน้าที่มือกลองแทน เปิดตัวด้วยเพลง "คุกเข่า" มีเพลง "โปรดเถิดรัก" เป็นเพลงแรกที่ได้ร่วมงานกับวงออเคสตราเต็มวง และเป็นเพลงที่ตัดออกมาจากประโยคเล็ก ๆ ในเพลง "เธอทำให้ฉันเสียใจ" ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่แล้วของวง และนำมาขยายความ และเป็นเพลงแรกที่ทำมิวสิกวิดีโอเนื้อเรื่อง และเพลง "เธอ" เป็นการกลับมากำกับมิวสิกวิดีโอครั้งแรกในรอบ 20 ปีของ นิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการของค่าย โดยได้ภรรยาของโอมมาร่วมแต่งเพลงนี้อีกด้วย[6]

นอกจากนี้ ยังได้มีการทำผลงานเพลงกับศิลปินอื่น โดยในปี พ.ศ. 2556 โอมได้ทำผลงานเพลง "ทางที่เลือก" ร่วมกับ ต้า พาราด็อกซ์ และแอร์ เดอะมูสส์ รวมถึงในปี พ.ศ. 2557 ค็อกเทลได้ทำผลงานเพลงคัฟเวอร์ "ข้าน้อยสมควรตาย" ของบิ๊กแอส เพื่อนำไปประกอบภาพยนตร์ ตีสาม คืนสาม 3D และเพลง "หนังสือรุ่น" นำไปประกอบละครซีรีส์ เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 วงได้ออกซิงเกิลที่ห้าของอัลบั้มด้วยเพลง "คู่ชีวิต" และมีกำหนดการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของค็อกเทล เดอะฮาร์ตเลสไลฟ์ ขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558[7] จัดที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์

อัลบั้ม ค็อกเทล (ชุดที่ 6) (พ.ศ. 2559–2562)

[แก้]

สตูดิโออัลบั้ม "ค็อกเทล" ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ของวง โดยเป็นครั้งแรกของวงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในการออกอัลบั้มใหม่ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ของวงเป็นสัญลักษณ์ตัวซี ที่ทับอยู่บนไม้กางเขน โดยปรากฏครั้งแรกในเพลง ทำดีไม่เคยจำ พ.ศ. 2560 โดยอัลบั้มนี้ซิงเกิลโปรโมทเพลงแรกคือ เพลง"ช่างมัน" ซึ่งออกจำหน่ายในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559[8] โดยอัลบั้มชุดนี้ประกอบไปด้วย 11 บทเพลงซึ่งก่อนหน้าการออกจำหน่ายได้มีเพลงที่ได้เผยแพร่ทางออนไลน์แล้ว 7 เพลงและเพลงที่เหลือได้ถูกเผยแพร่บนช่องทางออนไลน์หลังจากจำหน่ายอัลบั้มแล้วในเวลาต่อมา โดยอัลบั้มนี้ได้ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562 และได้มีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มในวันเดียวกัน ณ ลานหน้า ฮาร์ด ร็อค คาเฟ่ สยามสแควร์[9]

อัลบั้ม เฟตแอลฟา และ เฟตโอเมกา (พ.ศ. 2564–2566)

[แก้]

ค็อกเทล ขณะแสดงสดในงาน MRT Music Journey ในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566 ณ สถานีสวนจตุจักร

การยุบวง (พ.ศ. 2567–2568)

[แก้]

เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567 โอมได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า วงค็อกเทลจะยุบวงภายในปี พ.ศ. 2568 และโอมจะยุติการเป็นนักร้องในคราวเดียวกัน โดยได้มีการเตรียมตัวในการยุบวงมาก่อนหน้านั้นแล้วเป็นเวลาหลายปี เช่น การจัดเตรียมกองทุนของวง การจัดสรรผลประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และการแถลงยุบวงนี้ได้แถลงล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการอำลาแฟนเพลง

ในแถลงการณ์ฉบับเดียวกันได้มีการประกาศเส้นเวลากิจกรรมก่อนยุบวงเบื้องต้นว่าในปี พ.ศ. 2567 จะมีการจัดคอนเสิร์ตพิเศษในเดือนพฤษภาคม และจะขึ้นแสดงในงานจ้างที่รับไว้ รวมถึงเทศกาลดนตรีต่าง ๆ เป็นปีสุดท้าย จากนั้นในปี พ.ศ. 2568 ค็อกเทลจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายและทัวร์คอนเสิร์ตอำลาแฟนเพลงทั่วประเทศ[10] ก่อนที่ต่อมาจะประกาศรายละเอียดเส้นเวลาของกิจกรรมทั้งหมดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567[11] และต่อมามีการประกาศกำหนดการออกมาดังนี้

  • คอนเสิร์ตรูปแบบพบปะทักทายแบบโต้ตอบในชื่อ "ค็อกเทล ข้อสอบ" โดยให้แฟนเพลงร่วมกันทำข้อสอบเพื่อออกแบบรายชื่อเพลงให้วงเล่นโดยไม่ซ้ำกันในแต่ละรอบ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4, 5, 9–12, 16–19, 23–26, 30 และ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ณ ลิโด้ คอนเน็คท์[12]
  • สตูดิโออัลบั้ม "ยัวส์เอเวอร์" อัลบั้มชุดสุดท้ายของวง และเป็นอัลบั้มเดียวที่มีสมาชิกวงทั้งหมด 6 คน โดยมีสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาคือ วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์ ในตำแหน่งกีตาร์ริทึ่ม และชรัณ ตัณฑนันทน์ ในตำแหน่งเปียโน ซึ่งเล่นแบ็กอัปให้กับวงอยู่แต่เดิม มีเพลงทั้งหมด 11 เพลง แบ่งเป็นเพลงใหม่ 7 เพลง และเพลงที่ยังมิได้บรรจุในอัลบั้มใด ๆ อีก 4 เพลง โดยเผยแพร่อัลบั้มเต็มเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567[13] และมีกิจกรรมเปิดอัลบั้มเป็นนิทรรศการ COCKTAIL, YOURS EVER, LIFETIME EXHIBITION จัดขึ้นในช่วงวันที่ 1–21 กันยายน พ.ศ. 2567 ที่ RCB Galleria 1 และ 2 ชั้น 2 ริเวอร์ซิตี[14]

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วงค็อกเทลได้ประกาศชื่อคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายว่า "ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์" และกำหนดจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เดิมกำหนดในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568 เพียง 1 รอบ[15] แต่เนื่องจากบัตรถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว จึงเพิ่มรอบอีก 1 รอบในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568[16]

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2568 วงค็อกเทลได้ประกาศว่า หลังเสร็จสิ้นคอนเสิร์ตใหญ่แล้ว วงค็อกเทลจะจัดคอนเสิร์ตทัวร์เพื่อเดินสายอำลาแฟนเพลงในจังหวัดของประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด ในชื่อว่า "ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์"[17] และสองวันถัดมา (5 มีนาคม) ได้ประกาศว่าจะเริ่มการทัวร์คอนเสิร์ตที่จังหวัดสงขลาในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568 และสิ้นสุดที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 24 ธันวาคม จึงถือว่าวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เป็นวันยุบวงค็อกเทลไปโดยปริยาย รวมระยะเวลาดำเนินกิจกรรมในนามวงค็อกเทลทั้งหมด 23 ปีถ้วน[18]

ปีที่สมาชิกเข้าหรือออกจากวงประมาณการจากปีที่มีการจำหน่ายอัลบั้ม

สมาชิกปัจจุบัน
อดีตสมาชิก[ต้องการอ้างอิง]
เส้นเวลา

อัลบั้ม เฟท แอลฟา (Fate αlpha) และ เฟท โอเมกา (Fate Ωmega)

ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์

[แก้]

ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์
คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายโดยวงค็อกเทล
สถานที่จัดราชมังคลากีฬาสถาน
อัลบั้มยัวส์เอเวอร์
วันที่30 และ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568
จำนวนรอบแสดง2
ทีมโปรดิวเซอร์จีเอ็มเอ็ม โชว์
ลำดับคอนเสิร์ตของวงค็อกเทล

ไทยประกันชีวิต พรีเซนท์ส ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์ (อังกฤษ: ไทยประกันชีวิต presents COCKTAIL EVER LIVE) เป็นคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งที่ 5 และครั้งสุดท้ายของวงค็อกเทล โดยจัดแสดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นมีกำหนดจัดแสดงในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568 เพียงรอบเดียว ก่อนจะเพิ่มรอบการแสดงอีก 1 รอบ ในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567 โอมได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า วงค็อกเทลจะยุบวงภายในปี พ.ศ. 2568 และโอมจะยุติการเป็นนักร้องในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ มีการประกาศเส้นเวลากิจกรรมก่อนยุบวงเบื้องต้นว่าจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายในช่วงปี พ.ศ. 2568 ก่อนจะเดินสายอำลาแฟนเพลงทั่วประเทศ[10] ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 มีการประกาศรายละเอียดเส้นเวลาของกิจกรรมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย โดยเปิดเผยชื่อคอนเสิร์ตใหญ่ว่า "เอเวอร์ ไลฟ์" (EVER LIVE) และวางกำหนดจัดการแสดงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568[11]

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567 วงค็อกเทลได้ประกาศชื่อคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการว่า "ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์" และกำหนดจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยขยับวันที่ออกมาจากกำหนดในแถลงการณ์ยุบวงเล็กน้อยเป็นวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568 จำนวน 1 รอบ และกำหนดวันเปิดให้จองบัตรไว้เป็นวันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568 ในแพลตฟอร์มของเดอะ คอนเสิร์ต[20]

อย่างไรก็ตาม การกำหนดวันและสถานที่ดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนคลับฟุตบอลทีมชาติไทยบางส่วน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบให้ทีมชาติไทยต้องเปลี่ยนสนามเหย้าในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2027 รอบคัดเลือก – รอบที่ 3 ในกลุ่ม D ที่ทีมชาติไทยจะแข่งขันกับทีมชาติศรีลังกา ในวันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568 แต่วงค็อกเทลก็ชี้แจงในเวลาต่อมาว่า วงและผู้จัดคือทีมเกย์เรย์ ของจีเอ็มเอ็ม โชว์ ได้รับทราบกำหนดการดังกล่าวจากการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเห็นด้วยอย่างยิ่งในการที่ให้ความสำคัญของการแข่งขันกีฬามากกว่าคอนเสิร์ต ทั้งวงและผู้จัดจึงปรึกษากับทีมวิศวกรและทีมงานฝ่ายระบบแล้ว ทุกฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่าสามารถเลือกแบบของเวทีที่สะดวกต่อการติดตั้งและสามารถทำภายในเวลาที่จำกัดได้ จึงตกลงเลือกสนามราชมังคลากีฬาสถานในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ในที่สุด ภายใต้เงื่อนไขว่าจะสามารถเข้าติดตั้งอุปกรณ์เวทีและระบบได้หลังการแข่งขันเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น[21]

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568 หลังจากเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงผ่านแพลตฟอร์มเดอะ คอนเสิร์ตแล้ว พบว่าบัตรการแสดงถูกจำหน่ายหมดทุกที่นั่ง วงค็อกเทลจึงประกาศเพิ่มรอบการแสดงอีก 1 รอบ ในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568[16] โดยโอมชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าสาเหตุที่วงเลือกเพิ่มรอบการแสดงในวันจันทร์ซึ่งปกติเป็นวันทำงาน เนื่องจากไม่สามารถเพิ่มรอบในวันเสาร์ (30 มีนาคม พ.ศ. 2568) ได้ จากข้อจำกัดเรื่องการใช้สนามแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยข้างต้น อย่างไรก็ตาม บัตรการแสดงในรอบที่ 2 นี้ก็ถูกจำหน่ายหมดทุกที่นั่งเช่นเดียวกัน และเนื่องจากมีข้อจำกัด วงค็อกเทลจึงไม่สามารถเพิ่มรอบการแสดงรอบที่ 3 ได้ โดยวงได้แนะนำให้ผู้ที่ไม่มีบัตรจองบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งสุดท้ายที่วงจะไปจัดแสดงในทุกจังหวัดของประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด (ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์) แทน[22]

ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์

[แก้]

ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์ (อังกฤษ: COCKTAIL 77 EVER TOUR) เป็นคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งสุดท้ายของวงค็อกเทล ต่อจากคอนเสิร์ตใหญ่ ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์ โดยเป็นการแสดงคอนเสิร์ตในจังหวัดของประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด จังหวัดละ 1 ครั้ง ทำให้จะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตของวงในจังหวัดนั้น ๆ เป็นครั้งสุดท้าย โดยเริ่มเปิดจำหน่ายบัตรทั่วประเทศในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2568[17] โดยต่อมาได้เปิดเผยกำหนดการทัวร์คอนเสิร์ต โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568 ที่จังหวัดสงขลา และสิ้นสุดในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ที่กรุงเทพมหานคร และมีการเปิดเผยสถานที่จัดคอนเสิร์ตในแต่ละจังหวัดยกเว้นกรุงเทพมหานครที่ระบุเพียงคำใบ้ว่า "กลับบ้าน"[18]

  1. "story of cocktail ประวัติที่มาและการก่อตั้งวงค็อกเทล". facebook.com. 12 กันยายน 2553. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
  2. วันนี้เราจะออกอากาศรายการสดที่ pop channal นะครับ
  3. "อัลบั้ม 36,000 Miles Away From Here - ค็อกเทล". siamzone. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
  4. "genie records : COCKTAIL สมาชิกใหม่บ้านจีนี่ ปล่อยซิงเกิ้ลแรกใช้ชื่อเพลงว่า "เวลา"". genie-records.com. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
  5. "Would u like 2 drink"cocktail":) ?". ChristainFans at sites.google.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-12. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
  6. "The Lords Of Misery อัลบั้มใหม่ Cocktail วางแผงแล้ววันนี้". genie-records.com. September 29, 2014. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
  7. Cocktail : The Heartless Live thaiticketmajor.com
  8. "ช่างมัน ซิงเกิ้ลใหม่จาก COCKTAILเพราะเวลาเปลี่ยน ใจของคนเปลี่ยน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-08. สืบค้นเมื่อ 2020-04-20.
  9. "ครั้งแรกในโลก! คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มค็อกเทล".
  10. 10.0 10.1 "แฟนๆ ใจหาย วงดนตรีร็อค COCKTAIL ประกาศยุบวงในปี 2025". สนุก.คอม. 29 มกราคม 2023. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2023.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. 11.0 11.1 "COCKTAIL เผยไทม์ไลน์ 2 ปีต่อจากนี้ ก่อนอำลาส่งท้ายในปี 2568". สนุก.คอม. 9 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม 2025.
  12. "'COCKTAIL ข้อสอบ' ทำถึง! เต็มอิ่มจุใจ 16 รอบ ฉีกกฏคอนเสิร์ต เซอร์ไพรส์ลิสเพลง เปิดตัว Guest ฉ่ำ!". แนวหน้า. 10 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. "Yours Ever ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายของ COCKTAIL กับการ 'ส่งเธอออกไป' ให้กลายเป็น 'เพลงของทุกคน'". Mix Magazine. 20 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.
  14. "วีคสุดท้าย! COCKTAIL, YOURS EVER, LIFETIME EXHIBITION ถึง 21 กันยายนนี้". แนวหน้า. 18 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  15. "คอนเสิร์ต Cocktail วันไหน? ขายบัตรเมื่อไหร่ รีวิว คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้าย". คมชัดลึก. 10 พฤศจิกายน 2024. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  16. 16.0 16.1 "คอนเสิร์ตใหญ่ปิดตำนาน "Cocktail" ประกาศเพิ่มรอบการแสดง จันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568". ดาราเดลี่. 18 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  17. 17.0 17.1 "COCKTAIL ใกล้ฉัน! เตรียมพบกับการเดินทางครั้งสุดท้ายของวงร็อกที่จะเป็นตำนานใน COCKTAIL 77 EVER TOUR พาความทรงจำและเสียงเพลงไปหาทุกคนทั่ว 77 จังหวัด ตลอดปี 2568". อีเอฟเอ็ม. เอ-ไทม์ มีเดีย. 3 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  18. 18.0 18.1 ชุติอังกูร, ใยรัก (6 มีนาคม 2025). "COCKTAIL เปิดแผนให้เตรียมปักหมุดคอนเสิร์ต 77 จังหวัดทั่วประเทศ COCKTAIL 77 EVER TOUR". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  19. Cocktail The Heartless Live คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ ค็อกเทล
  20. "เตรียมตัวให้พร้อม ! "COCKTAIL" ประกาศคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งสุดท้าย". Mango Zero. 28 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  21. ""วงค็อกเทล" ชี้แจง กรณีใช้สนามราชมังฯ จัดคอนเสิร์ตใหญ่ใกล้วันแข่ง "ทีมชาติไทย"". ไทยรัฐ. 30 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  22. "COCKTAIL เผยถึงโอกาสที่จะเพิ่มรอบคอนเสิร์ต COCKTAIL EVER LIVE หลังถูกแฟน ๆ เรียกร้อง". อีเอฟเอ็ม. เอ-ไทม์ มีเดีย. 5 กุมภาพันธ์ 2025. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  23. สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (March 1, 2022). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2021 Tilly Birds คว้า 4 รางวัลใหญ่ 4EVE คว้ารางวัล Best Music of the Year และ Best Female Group". The Standard. สืบค้นเมื่อ March 1, 2022.
  24. สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (2023-03-14). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2022". THE STANDARD. สืบค้นเมื่อ 2023-03-17.