HERMÈSเปิดร้านโฉมใหม่พร้อมนิทรรศการ Hermès Heritage
- ️thansettakij
- ️Mon Oct 07 2019
Hermès เผยโฉมร้านใหม่ ที่สยามพารากอน ลงทุนปรับปรุงร้านครั้งใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและมิตรภาพที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่าง Hermès กับผู้มาเยือนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ร้าน Hermès สาขาสยามพารากอนเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2006 จุดหมายปลายทางของการช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เสน่ห์ของกรุงเทพฯ ไม่เพียงโดดเด่นด้วยศิลปวัฒนธรรม แต่ยังรวมไปถึงงานฝีมือและงานหัตถกรรมที่มีความละเอียดประณีต บ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างงดงามและมีเอกลักษณ์ ทำให้ร้านโฉมใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของสยามพารากอนนี้ งดงามด้วยรายละเอียดของการออกแบบสถาปัตยกรรมโดย RDAI บริษัทออกแบบจากปารีส ตกแต่งภายในอย่างพิถีพิถันบนที่พื้นที่กว่า 277 ตร.ม.
ตั้งแต่แนวกระจกบริเวณหน้าร้านที่รับกับฉากกั้นไม้ฉลุลาย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเรือนไทย สร้างบรรยากาศพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัว ด้วยเทคนิคลายฉลุที่มีความโปร่งและทึบ เพิ่มความโดดเด่นด้านหน้าร้านด้วยตู้โชว์ขนาดใหญ่ เป็นร้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามาสู่ภายใน เข้ามาแล้วจะพบกับโลโก้ ex-libris อยู่บริเวณทางเข้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน Hermès ทั่วโลก หนึ่งในความพิเศษคือโลโก้ทำจากสเตนเลส สตีล ฝังอย่างปราณีตบนพื้นไม้ไผ่สีคาราเมลเข้ม ด้านบนประดับด้วยโคมไฟ Grecques ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับร้าน Hermès มาตั้งแต่ปี 1925
ร้านนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากงานฝีมือของไทย โดดเด่นในการใช้วัสดุที่ทำด้วยมือ และคัดสรรจากแหล่งผลิตงานฝีมือเก่าแก่ อาทิ ไหมไทยและเครื่องจักสานอย่าง “ย่านลิเภา” ที่บ่งบอกถึงหัตถกรรมอันทรงคุณค่าของช่างฝีมือที่มีมายาวนานกว่า 150 ปี สีเข้มของเครื่องจักสานตกแต่งกลมกลืนไปกับผนังร้าน และพื้นไม้ไผ่ปาร์เก้สีคาราเมล สร้างความสมดุลของโทนสีได้เป็นอย่างดี เมื่อถูกนำมาตกแต่งร่วมกับเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนที่ทำจากไม้เชอรี่ ช่วยสร้างบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่นและเรียบง่าย รวมถึงพรมสีเหลืองหญ้าฝรั่น ที่ตัดกับสีส้มมะขามและสีแดงทับทิม ยิ่งเพิ่มสีสันให้น่าค้นหาได้อย่างลงตัว
เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่โซนแรก จะพบกับพื้นที่จัดแสดงผ้าพันคอ น้ำหอม เครื่องประดับจิวเวลรี่ รวมไปถึงสินค้าในกลุ่ม Equestrian ที่เกี่ยวข้องกับม้าอันเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ และคอลเลคชั่นของตกแต่งบ้าน ถัดเข้ามายังพื้นที่ส่วนกลางที่ตบแต่งอย่างสวยงามด้วยพื้นโมเสคอันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เผยให้พบกับโซนเครื่องหนัง ก่อนจะนำเข้าสู่ด้านใน ที่ให้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น เชื้อเชิญให้แขกผู้มาเยือนได้พบกับเครื่องแต่งกายของบุรุษและสตรี รวมทั้งคอลเลคชั่นนาฬิกาและจิวเวลรี่
นอกจากนี้ยังจัดนิทรรศการ HERMÈS HERITAGE-ROUGES HERMÈS ระหว่างตั้งแต่วันนี้-13 ตุลาคม 2562 ที่ลานพาร์คพารากอน สยามพารากอน โดยนิทรรศการนี้บอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติความเป็นมา และมรดกที่มีความสำคัญของ Hermès ตั้งแต่ค.ศ. 1837 ซึ่งก่อตั้งโดย Thierry Hermès ผลงานที่นำมาจัดแสดงมีความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งในด้านการใช้สี รูปแบบ และลวดลาย ที่สืบทอดมายังดีไซเนอร์และช่างฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งจัดแสดงผลงานหัตถศิลป์ชั้นเลิศของช่างฝีมือ ที่ถ่ายทอดมาจากช่างทำอานม้าอันเป็นต้นกำเนิดของ Hermès สร้างสรรค์เป็นผลงานการออกแบบร่วมสมัยอยู่เหนือกาลเวลา และทรงคุณค่าตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
โดยนิทรรศการ Rouges Hermès เป็นการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความผูกพันของ Hermès ที่มีต่อสีแดง ซึ่งคำว่า Rouges ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงสีแดง โดยมีความหลากหลายในเฉดต่างๆ ตั้งแต่สีแดงเลือดนก (vermilion) ไปจนถึงสีแดงอมม่วง (magenta) และสีแดงสดไปจนถึงเฉดสีแดงที่มีความนุ่มนวลเป็นอมตะ โดยสีแดงนั้นแสดงออกถึงความทรงพลังและยังเข้ามามีอิทธิพลต่อ Hermès ในยุคที่ Émile Hermès เข้ามาสืบทอดกิจการต่อจากบรรพบุรุษ และได้ร่วมงานกับช่างฟอกสีหนังมากฝีมือหลายท่าน เพื่อพัฒนากรรมวิธีการฟอกสีหนังวัว box calf ที่ย้อมผืนหนังคุณภาพให้มีสีแดงงามสง่าและทนทาน
จึงเป็นที่มาของการออกแบบตกแต่งผลงานด้วยสีแดงในเฉดสีต่างๆ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชิ้นงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเครื่องหนังเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเครื่องแต่งกายและของตกแต่งบ้านด้วย อาทิ ตู้เครื่องประดับที่มีดีไซน์ร่วมสมัย รายละเอียดโครงสร้างที่งามสง่าของไม้มะฮอกกานีสี Rouge H แสดงออกถึงความประณีตของการออกแบบ วิจิตรราวกับการสร้างสรรค์งานศิลปะ วัสดุที่นำมาใช้นั้นมีตั้งแต่ไม้ไปจนถึงคริสตัล เครื่องหนังและผ้าไหม สะท้อนถึงความหลากหลายของวัสดุและสีสัน ที่เมื่อนำมาผสมผสานกันแล้วเกิดเป็นความงดงามลงตัว และเปี่ยมไปด้วยคุณค่าอย่างน่าอัศจรรย์
Bruno Gaudichon ภัณฑรักษ์ผู้จัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอุตสาหกรรมในเมือง Roubaix (ประเทศฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นภัณฑรักษ์ของนิทรรศการ Rouges Hermès ร่วมกับดีไซเนอร์ผู้ออกแบบนิทรรศการ Laurence Fontaine ได้เลือกที่จะนำเสนอรูปแบบของนิทรรศการให้มีความคล่องตัว แต่ยังสะท้อนถึงความเฟื่องฟูของมรดกแต่ละชิ้นไว้อย่างน่าประทับใจ โดยนำผลงานบางส่วนจาก (1) คอลเลคชั่นสะสมอันเลอค่าของ Émile Hermès (2) คลังสะสมผลงานของ Hermès (3) ผลงานร่วมสมัยของ Hermès มาจัดแสดงไว้ในนิทรรศการนี้ด้วย
สำหรับพื้นที่การจัดแสดงนิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 ส่วน โดยแต่ละส่วนจะมีความเชื่อมโยงกันด้วยมิติของกาลเวลา เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงผลงานที่ถูกสร้างสรรค์ในแต่ละช่วงเวลา ผสานไปกับวิวัฒนาการของสีแดงในงานออกแบบแต่ละชิ้น บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่าและงามสง่าของ Hermès ภายใต้สีแดง Rouge H เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น.-20.00 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย